Browse
จากการตั้งภารกิจไว้ว่าจะไปกินร้านอาหารดังๆ จากการทำการบ้านก่อนไปจากเว็บ tabelog.com ซึ่งเป็นเว็บโซเชียลเกี่ยวกับอาหารของญึ่ปุ่น ได้ลิสต์ร้านมาทั้งหมด 53 ร้านและตั้งใจว่าจะกินให้ครบทุกร้าน แต่เนื่องจากหลายๆปัจจัย จึงได้ไปเท่าที่จะเล่าต่อไปนี้ครับ
วันที่ 1 – โตเกียว (ตอนต้น)
หลังจากที่เครื่องลงตอน 6 โมงพอดิบพอดีที่สนามบินฮาเนดะ ก็นั่งรถไฟเข้าเมือง
มาถึงสถานี Ryogoku ที่เป็นที่พัก ซึ่งโรงแรมก็จะอยู่หน้า Ryogoku Hall เลย ตอนแรกก็ว่ามีคนแก่มานั่งอ่านหนังสือซูโม่กันเยอะมากที่นี่ ก็นึกได้ว่า Ryogoku …
วันที่ 1
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu/
วันที่ 2
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-2/
วันที่ 3 – ฟุคุโอกะ (โคคุระ, ฮาคาตะ)
ตื่นตอนเช้าไปสนามบิน เครื่องออก 10.00 กินขนมจากร้าน อุซางิยะ อย่างที่ 3
แป้งบางกรอบ ไส้ในแน่นมาก
ถึงสนามบินฮาเนดะ อาคารบินในประเทศ เจอนักเรียนรอขึ้นเครื่องทัศนศึกษากัน
ร้านขายของฝากเพียบ
แวะเติมพลังในคาเฟ่สนามบินก่อน
มอนิ่ง เครี่ เซ็ต (900เยน)
ในเซ็ตเลือกเครื่องดื่มได้ 1 อย่าง
กินเสร็จตรงแถวเกทเข้าเครื่องก็มีร้านพวกข้าวกล่อง แซนวิซต่างๆ
ติดใจกล่องนี้มากๆ หน้ากล่องน่ารักสุดๆ …
ตะลุยกินแหลก!!โตเกียว-คิวชูเหนือ 7วัน 6คืน 36ร้าน 150เมนู ดังของญี่ปุ่น วันที่2
ติดตามอ่านวันแรกได้ที่ลิงก์นี้ครับ
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu/
วันที่ 2 – โตเกียว (ตอนจบ)
ตื่นตอนเช้าก็เติมพลังซักนิดด้วยขนมมันจูรูปกระต่างจากร้านอุซางิยะเมื่อวานครับ หน้าตาน่ารักทีเดียวเชียว

แหวกดูไส้ในอัดแน่นไปด้วยถั่วแดง

จากนั้นรีบขึ้นรถไฟมาที่สถานี JR Nishikokubunji ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควรเลย และที่สถานีนี้ตกแต่งภายในทั้งหมดเป็นแนว คันทรี่ตะวันตก เก๋ ทีเดียว

เดินออกมาก็จะเจอ IZUMI HALL ร้านที่เราจะไปอยู่ด้านหลังนี้เองครับ

เจอแล้ว ร้าน Kurumed Coffee

มาถึงเค้ากำลังเปิดร้านพอดี (ร้านเปิด 10.00)

ช่วงเช้าเค้ามีโปรโมชั่น กาแฟ + ขนมคุรุเมด ของทางร้าน ราคา 550 เยน (กาแฟเติมได้ตลอด)

ข้างในบรรยากาศเก๋มาก ใครชอบแนวนี้นั่งได้ทั้งวันเลยครับ ไม่มีเบื่อ

มาดูเมนูกันดีกว่า

อันนี้เป็นเมนูเฉพาะฤดูหนาวครับ

ตรงที่นั่งก็มีมุมวอลนัท ให้กินกันได้ไม่อั้นนะ

ลองแกะกินเล่น เพลินๆดี

และแล้วก็สั่งเมนูแนะนำเลย คุรุเมด แซนด์ หรือ แซนวิซคุรุเมด สั่งมาแบบอันเล็ก กุ๊กกิ๊ก ยั่วกระเพราะก่อน (เล็ก 370เยน ใหญ่ 520เยน)

ประกอบไปด้วยแป้งคุรุเมดสูตรเฉพาะของทางร้าน เบค่อน บล็อกโคลี่ กระหล่ำดอก ชี้ส และวอลนัท รสชาติแป้งนุ่มอร่อยมาก เข้ากับชี้สกับเบค่อนสุดๆ ใส่ปากแล้วแทบเคลิ้มไปเลย

ต่อด้วย คุรุเมดเค้ก ข้างในเป็นครีม และช็อกโกล่าครีม กินคู่กับส้มและพีชครับ อันนี้ก็สุดยอด ครีมนุ่มหอม ไม่หวานเกินไป เข้ากับเค้กคุรุเมดมากๆ ถ้าได้ยิ่งกินพร้อมส้มแล้วด้วยนี่ ไร้ที่ติ!! (เล็ก 370เยน ใหญ่ 520เยน)

กินพร้อมกับชา สุขสุดๆ

ตบท้ายด้วย คุรุเมด แรร์ชี้ส (เล็ก 350เยน ใหญ่ 500เยน)

อันนี้ยอดมากครับ ชี้สกลมกล่อมมากๆ แล้วยิ่งใส่วอลนัท และราดน้ำผึ้งผสมเลมอนลงไปด้วยนี่ ใจละลายลงชามไปเลย

ขวดน้ำผึ้งผสมเลมอนครับ

มุมกาแฟ สำหรับใครสั่งเซ็ตกาแฟตอนเช้า มาเติมตรงนี้ได้เลยครับ

มุมครัว

มีขายเมล็ดกาแฟกลับบ้านด้วยนะครับ ขีดล่ะ 500เยน

นอกจากเมล็ดกาแฟแล้ว พวกวอลนัทที่กินๆตะกี้ ก็ซื้อกลับบ้านได้ครับ (แพงเหมือนกัน แพคล่ะ 900เยน)

มุมใต้บันไดเป็นห้องเก็บวอลนัท ดูน่ารักมาก

มุมขายโปสการ์ด สมุดโน้ตเก๋ๆ

”ร้าน Kurumed Coffee”
เปิด: 10:30-22:30(L.O.22:00)หยุดวันพฤหัส
map: http://goo.gl/maps/Zw6in
จากร้าน Kurumed Coffee ก็ตั้งใจมาต่อที่ร้านแกงกะหรี่โฮมเมดแบบสุดยอดๆ นั่งรถไฟต่อมาไม่นานก็ถึงสถานี Ogikubo

เดินมาเรื่อยๆด้วยใจที่คาดหวังแกงกะหรี่หอมๆ บนข้าวนุ่มๆ

ถึงแล้ว!!! ไม่มีคิวด้วย ร้านก็เปิด เยี่ยมไปเลย

แต่สุดท้ายก็โดนหักอก เพราะทางร้านบอกว่าแกงกะหรี่สำหรับมื้อเที่ยงหมดแล้ว (หมดตั้งแต่เที่ยงครึ่งเลย) แล้วก็เอาป้ายมาแปะอย่างในภาพ แค้นใจยิ่งนัก

ลูกผู้ชายไม่ยอมแพ้ นั่งรถไฟมาต่อร้าน ของทอดสุดยอดที่สุดของโตเกียวเลย ร้านนี้อยู่ที่สถานี JR Takadanobaba

ร้านนี้โดยทั่วไปแล้วไม่มีทางจะมากินแน่ๆครับ

ภาพถ่ายจากอีกฟากของถนน

ทางเข้าร้านต้องเดินลงไปทางแคบๆลงชั้นใต้ดิน

ทางเข้าร้าน ขอบอกว่าโชคดีมากครับ หลังจากที่ผมมาถึงหน้าร้านไม่นาน ก็มีคนมาต่อคิวอีกเพียบเลย เข้ามาได้จังหวะพอดีมากๆ

บรรยากาศภายในร้าน

สุดยอดของร้านนี้คือ ทงคัตสึสันนอกครับ ผมเลือกแบบ “พิเศษ” หมูหนา 3cm (2000เยน)

เซ็ตเติมข้าว กับกระหล่ำได้ไม่อั้นครับ

ดูขนาดความหนาของชิ้นหมูสิครับ(เปรี่ยบเที่ยบกับขนาดปกติ) ทอดแบบมิเดี่ยม ข้างในจะอมชมพูๆ

ความอร่อยขอบอกว่า อร่อยมากกกกกกกกกกกกก ปกติที่เคยกินอร่อยๆที่ซาโบเต็น หรือคัตสึคิง ร้านนี้ถือว่าคนล่ะรุ่นเลย หมูทอดอร่อยได้โดยที่ไม่ต้องจิ้มซอส หมูเนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ มีความหวานในเนื้อเลย

ของทอดอื่นๆ ก็ไม่ใช่เล่นๆ หอยนางรมทอด และหมูปั้นทอดครับ

หอยนางรมทอด

หมูปั้นทอด ชุ่มฉ่ำมากๆ

ตบด้วยกุ้งทอดตัวโตๆๆๆๆๆๆ เนื้อเด้งๆ ชุ่มฉ่ำ รสหวานของกุ้งออกมากพร้อมกับความกรุบกรอบของแป้ง

อันนี้สั่งเพิ่มทีหลังครับ หมูสันใน ไม่มีมัน แต่ว่าเนื้อนุ่มมากๆๆๆๆๆ

ซดซุปหน่อย

ออกมาร้านก็ปิดช่วงกลางวันพอดี

“ร้าน Narikura”
เปิด: 11.00-14.00 17.30-22.00 (L.O 21.00)
หยุดวันอังคาร
map: http://goo.gl/maps/rUQxg
หลังจากมื้อหนักๆก็มาเดินย่อยที่ อากิบะ

หลังจากที่มัวเมาในแหล่งนี้ได้หลายชม.ก็มาที่ย่านกินซ่าเพื่อมาต่อที่ร้านถัดไป

ย่านนี้มีแต่ของหรูๆ

Gucci ที่ร่วมกับ อ.ฮิโรฮิโกะ คนวาด JOJO

ถนนกินซ่าตอนกลางคืนสวยมาก

ถึงแล้ว ร้าน La Maison Du Chocolat ร้านช็อกโกแล็ตชื่อดังแห่งย่านหรูกินซ่า

ของโชว์หน้าร้านน่ากินซะทุกอย่าง

ข้างในก็มีลูกค้าเรื่อยๆไม่ขาดสาย

เครื่องทำกาแฟ

มีขายเมล็ดกาแฟด้วย

Service จากทางร้าน

เมนูเค้ก

เมนูมาการอน

เมนูเครื่องดื่ม

กาแฟเย็น

ช็อกโกแล็ตร้อน เลือกแบบ Guayaquil เป็นแบบเสิร์ฟพร้อม Bourbon vanilla (945เยน ราคาสมกับย่านกินซ่า)

วานิลาจะแยกมาให้ต่างหาก

ช็อกโกแล็ตร้อนรสชาติเข้มข้นมากครับ ไม่หวานเกินไป หอมกลิ่นวานิลา กินแล้วกลัวจะหมดสุดๆ 555
เค้กของเด็ดมาแล้ว!!! Les Entremets (672เยน) รสชาติเข้มข้น กลมกล่อมมากๆ เนื้อเค้กเนียนนุ่ม บวกกับรสชาติช็อกโกแล็ต และมีกลิ่นแชมเปญนิดๆ สุดยอดที่สุด!!!

ต่อมาด้วย ทิรามิสุ (693เยน) ก่อนกินก็ใช้ช้อนกระเทาะช็อกโกแล็ตตรงผิวให้หัก แล้วกินพร้อมทิรามิสุ ช็อกโกแล็ตกรุบๆ กินพร้อมกับ ทิรามิสุนุ่มๆ รสสัมผัสที่สุดยอด บวกกับรสชาติที่อร่อยสุดๆ น้ำตาจะไหล

ไหนๆก็มีเมนูมาการอนแล้ว ก็ลองสั่งดูหน่อย เอาแบบเซ็ต มาการอนเลือกได้ 2 ชิ้น + ช็อกโกแล็ตแนะนำ 1 ชิ้น (เลือกเองไม่ได้) (735เยน)

ผมเลือกแบบ Guayaquil เป็นแบบดาร์คช็อครสวานิลา และ Sylvia ส่วนช็อคโกแล็ตได้แบบรสส้มครับ มาการอนนี่อร่อยสุดๆ ไม่หวานเกินไป รสชาตินุ่มนวลมากๆๆๆๆ และช็อกโกแล็ตร้านนี้ขอบอกว่าอร่อยมากกกก และแพงมากกกกกกกกกกก
ต่อด้วยทาร์ตช็อกโกล่า (672เยน) แป้งทาร์ตกรุปๆ กับช็อกโกแล็ตเข้มข้น ที่เจ๋งก็คือ สั่งช็อกโกแล็ตมาหลายอย่างขนาดนี้ แต่รสชาติไม่เหมือนกันซักเมนูเลยครับ สวรรค์ของคนรักช็อกโกแล็ตชัดๆ

ช็อกโกแล็ตต้อนรับช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ (เห็นกล่องเล็กๆงี้ ราคาหลายพันบาทนะครับ)

“ร้าน La Maison Du Chocolat”
เปิด: 11:00-20:00 (L.O19.00) หยุดช่วงปีใหม่ (31 ธ.ค.-3 ม.ค.)
map: http://goo.gl/maps/Cvn98
มื้อไคลแม๊กซ์ของโตเกียวมาแล้วครับ ร้านซูชิระดับ มิชลิน 3 ดาว เทียบเท่าร้านจิโร่ ร้านนี้ต้องจองล่วงหน้าราวๆ 1 เดือน ตอนแรกโทรไปจองแต่ไม่รับจองต้องมีเบอร์ติดต่อกลับที่ญี่ปุ่นด้วย เลยให้ทาง รร.โทรจองให้ โชคดีที่ร้านนี้ รร.ไม่ต้อง 5 ดาวก็จองได้ครับ
ร้านนี้ถ้าจะยกเลิกต้องบอกล่วงหน้า 3 วัน ไม่งั้นต้องจ่ายค่าอาหารเต็มๆถ้าเกิดไม่ได้ไปครับ เพราะทางร้านจะจัดเตรียมวัตถุดิบมาให้เราโดยเฉพาะเลย (แต่จะจ่ายยังไงก็ว่ากันอีกที)
ร้านนี้อยู่ในย่านกินซ่า ใกล้ๆกับร้านช็อกโกแล็ตที่ไปเมื่อตะกี้นี้
หน้าตึกครับ เป็นตีกเล็กๆ ร้านนี้อยู่บนชั้น 3F

เดินขึ้นไปจะเจอทางเข้าหน้าร้านเล็กๆประมาณนี้

ทางเข้าครับ

ป้ายร้าน

ร้านค่อนข้างเล็ก เป็นที่นั่งหน้าเคาเตอร์ทั้งหมด นั่งได้ราวๆ 6-7 คน ไม่เกินนี้ครับ
มุมนึงของร้าน

เชฟกำลังเตรียมของ

ชามาเสิร์ฟแล้ว

จานพร้อม

ขิงดองที่นี่ก็ใช้ขิงสดมาดองเองครับ รสชาติสดใหม่มาก

ก่อนอื่นเอาไข่ตุ๋น ท้อปปิ้งด้วย ชิราโกะย่าง มาเสิร์ฟก่อน ไข่ตุ๋น สีใสมากครับ แต่ว่าเหนียวหยุ่นๆ รสชาติอ่อนๆ ละมุน กินกับชิราโกะย่างนี่สุดยอดมาก ย่างได้ดีสุดๆ ผิวตึงๆ กัดแล้วครีมทะลัก หอมมาก จากที่เดินมาเหนื่อยๆทั้งวัน ผ่อนคลายได้ดีมากเลย

ต่อด้วย ทาโกะ เนื้อทาโกะนุ่มมากๆ ไม่มีความเหนียวเลย รสหวานธรรมชาติ

จิ้มกับเกลือนี่ครับ ทำให้ทาโกะออกรสหวานยิ่งขึ้น

จานนี้ครับ เด็ดสุดๆ ซาซิมิปลาไท สังเกตที่ผิวเนื้อปลาครับ แล่ได้เฉียบสุดๆ ผิวเต่งตึงมากๆ เอาเข้าปากปุ๊บ ผิวภายนอกเหมือนดูดติดลิ้น พอเอาฟันขบเนื้อปลาภายนอกก็จะเด้งสู้ฟัน และถ้าออกแรงขบต่อไปก็จะนุ่ม รสหวานออกมา สุดยอดที่สุดเลยครับ

ไม่รู้เรียกว่าเคล็ดลับรึเปล่า ที่เห็นถ้วยใส่เนื้อปลาข้างๆเขียงนั่น นั่นคือเนื้อปลาที่ “หั่นทิ้ง” เค้าจะคัดเนื้อปลาส่วนที่อร่อยที่สุดมาให้ลูกค้ากินเท่านั้นครับ

ซูมให้เห็นกันชัดๆ

ซอสโชยุสูตรพิเศษ ใช้สำหรับซาซิมิจานนี้เท่านั้น ห้ามจิ้มอย่างอื่น เชฟตีมือตาย

อีกจานเด็ดครับ หอยอาวาบิ (เป๋าฮื้อ) คือเนื้อหอยนุ่มมาก นุ่มที่สุดในสามโลก คือหอยชิ้นใหญ่ๆ เชฟจะตัดส่วนที่เหนียวทิ้งหมด เหลือแต่แกนที่นุ่มๆ ส่วนที่อร่อยที่สุด เอามาจิ้มกับซอสที่ทำมาจากเครื่องในหอยอีกที เข้มข้น นุ่มลิ้น สุขสุดๆ

หน้าตาซอสครับ

จิ้มกินแบบเน้ๆๆๆๆๆ

กินหมดก็เอาข้าวซูชิใส่เข้าไป เชฟเรียกว่า เจแปนนิสรีซ็อตโต้

ต่อมาด้วย คัตสึโอะ ทาทากิ ปกติคัตสึโอะทาทากิ ที่เคยกิน ผิวที่ย่างจะขมนิดๆ แต่อันนี้ไม่เลยครับ เนื้อปลาสุด หวาน เนื้อแน่น หนังย่างได้หอมติดจมูกเลย

ต่อมาด้วย อังคิโมะ หรือ ตับปลาอังโงะ ของชอบอีกอย่างนึงของผม ตับปลาเค้าใช้ตับปลาสุดๆ มาแล่เลย เนื้อเลยนุ่มสด ไม่คาวไม่ขม แถมซอสที่ใช้ทำก็มาจากตับปลานี่ล่ะครับ อร่อยมากๆๆๆๆๆๆ

ซูชิมาแล้วครับ คำแรกเริ่มด้วย อิกะ เนื้อปลาหมึก เชฟเค้าบั้งไว้อย่างสุดยอดมากๆ บั้งอย่างตั้งใจ เนี๊ยนสุดๆ ผลก็คือทำให้ได้รับรสหวานของปลาหมึกออกมาอย่างเต็มที่ และไม่มีความเหนียวเลย

คลิปการบั้งปลาหมึกของเชฟครับ
คินเมะได ปกติผมจะชอบอยู่แล้ว นี่หลงรักเลย เนื้อเนียนนุ่ม รสหวาน ไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อปลากระจายออกมาเต็มปาก แต่งได้แต่งไปแล้วครับ

ปลาซาวาระ เอามารมควัน กลิ่นหอมสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

จูโทโร่มาแล้วครับ อร่อยสุดๆ ทำให้ที่เคยกินมาเป็นอะไรก็ไม่รู้ไปเลย เหมือนอาหารคนล่ะชนิด มันละลายไปเต็มปาก แต่ไม่เหลือความเลี่ยนเลย ความอร่อยของซอสก็เข้าได้ที่กับข้าวซูชิ สุดยอดมากครับ

โอโทโร่มาแล้ว!!! ว่ากันตรงๆก่อนหน้านี้เบื่อรสโอโทโร่มากครับ เพราะเป็นส่วนที่มีมันมาก เข้มข้น เวลากินรสชาติจะจำติดลิ้น ทำให้เบื่อง่าย แต่คำนี้ เปลี่ยนโลกเลย กินไปปุ๊บมันละลายไปหมดเลย แต่ไม่เหลือความเลี่ยนหรือน้ำมันไว้ในปาก ซอสที่ทาก็เข้ากับเนื้อปลา สุโก้ยยยย

ปลาซาวาดะ หมักน้ำส้มได้กำลังดี กลิ่นหอมมาก เอามาตัดกับโอโทโร่เมื่อกี้ได้อย่างดีเยี่ยมเลย

มาดูข้าวซูชิด้านล่างกันหน่อย ข้าวที่ปั้นจะไม่แน่นมาก มีโพรงอากาศด้านใน เวลากินแล้วข้าวกับปลาจะเข้ากันพอดีในปาก

คามาสึ เอามาม้วนกับข้าว ปรุงด้วยบ๊วยกับใบโอบะ อร่อยมาก!!!!!!!!!!!

มิรุไก หรือหอยงวงช้าง รสเฉพาะตัวกับความกรุบกรอบของหอย สุดยอดจริงๆ

ของโปรดมาแล้ว อุนิ ปกติอุนิที่กินจะไม่ต่างกันมาก แต่อันนี้ขอบอกว่าต่างไปอีก มีความหวานละมุนมากกว่าที่เคยกินมากครับ ไร้ความคาวใดๆทั้งสิ้น ไม่มีแม้แต่นิดเดียว

กล่องนึงมีเยอะมากๆ สีสวยสุดๆ เป็นอุนิที่ได้จาก ฮาโกดาเตะ ของเกาะฮอกไกโดครับ หน้าตาพรีเมี่ยมมากๆ

คุรุเมะ เอบิ เนื้อกุ้งแน่นมากๆ ผิวตึงเปรี๊ยะ กัดลงไปก็จะเด้งสู้ฟัน แต่พอกัดขาดก็จะนุ่ม รสหวานของกุ้งกระจายเต็มปากไปหมด

อันที่เล็งไว้นานเชฟก็เอาออกมาแล้ว อานาโงะ นึ่งกับใบตอง เห็นนึ่งไปตั้งแต่ที่เข้าร้านแล้วครับ นึ่งแบบพิถึพิถันมาก

ออกมาแล้วครับ ดูนุ่มฟูมากๆ

ขอบอกว่าชอบอันนี้สุดๆ เนื้อปลานึ่งจนนุ่มฟู พอเอาเข้าปากปุ๊บ เหมือนสัมผัสกับปุยเมฆ ความอร่อยวาบลงไปในปาก ไหลลงคอไปเลย ซอสก็ไม่หวานเกินไป เข้ากับเนื้อปลาและข้าวซูชิมากๆ

ตบท้ายด้วย ไข่หวาน นุ่มๆเหมือนกินเค้กเลย

ซุปซดปิดท้าย

ตบท้ายมีของหวานด้วย เป็นวุ้นเย็นๆกับน้ำตาลดำ ซดรวดเดียวล้างปากได้ดีเลย

สำหรับมื้อนี้ ราคาก็เป็นไปตามรสชาติครับ คอร์สนี้คนล่ะ 26450 เยน (รวม vat + service แล้ว) ตีเป็นเงินไทยราวๆ 9000 บาทครับ (นี่ขนาดเงินเยนตกลงแล้วนะ)
“ร้าน ซูชิโยชิทาเกะ”
เปิด:
[จันทร์-ศุกร์] 18:00-23:00(รับลูกค้าคนสุดท้ายเวลา 21:30)
[เสาร์] 18:00-22:00
หยุดวันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ
ร้านนี้ต้องโทรจองล่วงหน้านะครับ เบอร์โทร. 03-6253-7331 (ต้องให้ที่ญี่ปุ่นจองให้นะครับ ไ่ม่รับการจองต่างประเทศ)
map: http://goo.gl/maps/JPKJA อยู่ชั้น 3F นะครับ
——จบวันที่ 2———-
อ่านตอนต่อๆไปได้ตามลิงก์นี้ครับ
ตะลุยกินแหลก!!โตเกียว-คิวชูเหนือ 7วัน 6คืน 36ร้าน 150เมนู ดังของญี่ปุ่น
วันที่3
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-3/
วันที่4
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-4/
วันที่5
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-5/
วันที่6
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-6/
วันที่7
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-7/