Browse
ย้อนอ่านตอนเก่าได้ครับผม
ตะลุยกินแหลก!!โตเกียว-คิวชูเหนือ 7วัน 6คืน 36ร้าน 150เมนู ดังของญี่ปุ่น
วันที่ 1
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu/
วันที่ 2
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-2/
วันที่3
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-3/
วันที่4
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-4/
วันที่5
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-5/
วันที่6 – ฮาคาตะ
หลังจากที่ใช้ตั๋ว JR จนคุ้มค่าหนำใจครบ 3 วันแล้ว ก็มาเที่ยวที่ฮาคาตะอย่างเด็มที่บ้างดีกว่าครับ
สำหรับที่ฮาคาตะจะมีตั๋วรถไฟใต้ดินแบบตั๋ววันอยู่ วันธรรมดา 600เยน วันหยุด 500เยน คุ้มค่ามากๆ
ที่ผมจะขึ้นเป็นรถไฟสายสีเขียว ที่ชอบคือ มันสีเขียวจริงๆด้วย
ขนาดนายสถานียังแต่งยูนิฟอร์มเขียวเลย
เช้านี้จะมาเที่ยวตลาดปลา ปกติผมถ้ามาต่างที่ต่างถิ่นแบบนี้ มักจะมาดูตลาดปลา เพราะจะเห็นปลาตามท้องถิ่นนั้นๆครับ
มาลงที่สถานี …
เห็นกระทู้ในพันทิบแนะนำร้านของเชฟคำมูล ผู้ท้าชิงในรายการเชฟกะทะเหล็ก คราวนี้เชฟมาเปิดร้านของตัวเองเลย เป็นร้านเพิงเล็กๆซอยหลังบิ๊กซีรัชดา เดินเข้าทางข้างจัสโก้รัชดาเก่า จะมีซอยทะลุ เจอแยกแรกให้ตรงไปแล้วมองทางขวามือจะมีตรอกเล็กๆเข้าไปที่ ศรีวราแมนชั่นตึก 1 ได้ ร้านอยู่ตรงนั้นครับ อยู่รวมกับร้านหมูกะทะเลย
ร้าน Nihon Sushi
เปิด 17.00-24.00 หรือจนกว่าของจะหมด
โฉมหน้าเชฟครับ
รูปในรายการเชฟกะทะเหล็ก
แต่ล่ะวันจะมีเมนูราคาพิเศษ
บรรยากาศภายในร้านครับ
เมนูของร้านครับ รายการอาหารไม่ค่อยเยอะ วัตถุดิบที่สั่งมาใช้ในแต่ล่ะวันก็ไม่เยอะ เพราะเชฟจะใช้วันต่อวัน บางเมนูจะหมดเร็วมาก ถ้าอยากกินควรจะมาไวหน่อยครับ
และเมนูพิเศษ
โอเคครับเริ่มกันเลย!!!
จานแรกมาแล้ว สลัดปลาดิบรวม
ปลาทูน่าโดนงาดำ อย่างกะแตงโม
ด้านบนท้อปปิ้งด้วยยำสาหร่ายและไข่กุ้ง
แซลมอน
ยำสาหร่ายครับ จานเล็กๆเอามากินคั่นรอจานต่อไป
จานต่อมาสลัดทะเลรวม
จานนี้จะต่างจากจานที่แล้วตรงน้ำสลัด และจานนี้จะมีทาโกะแทนแซลมอนและทูน่า ทาโกะที่นี่เป็นทาโกะตัวเล็กครับ …
ตะลุยกินแหลก!!โตเกียว-คิวชูเหนือ 7วัน 6คืน 36ร้าน 150เมนู ดังของญี่ปุ่น วันที่7
ย้อนอ่านตอนเก่าได้ครับผม
ตะลุยกินแหลก!!โตเกียว-คิวชูเหนือ 7วัน 6คืน 36ร้าน 150เมนู ดังของญี่ปุ่น
วันที่ 1
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu/
วันที่ 2
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-2/
วันที่3
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-3/
วันที่4
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-4/
วันที่5
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-5/
วันที่6
http://www.dotpng.com/2013/02/tokyo-kyushu-6/
วันที่ 7 – วันสุดท้าย
วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วครับ เครื่องออกตอน 3 ทุ่ม ยังมีเวลาพอทำอะไรได้อยู่ ตอนเช้าเช็คเอาท์ที่รร. ฝากของไว้ที่เคาเตอร์ก็ออกมาจิบน้ำชารับอรุณซักหน่อย
มาที่ร้าน jacques เป็นร้านเค้กที่ได้รับความเรตติ้งสูงที่สุดในฮาคาตะ มีทั้งหมด 2 สาขาคือที่ Akasaka และที่ Ohori ครับ ที่ผมมานี่คือสาขา Akasaka อยู่แถวที่พักเลย

มาก่อนร้านเปิดกำลังเอาเค้กมาส่งจากครัวกลางเลย

ป้ายร้านครับ

ร้านเปิด 10โมงเช้า – 1ทุ่ม (สั่งได้ถึง 6โมงเย็น)

ภายในร้านครับ

นั่งรอเค้กที่จิ้มๆไว้

มาแล้วครับชิ้นแรก เค้กชิ้นนี้เป็นของขึ้นชื่อของร้านครับ ชื่อเดียวกับร้านเลย “Jacques” เค้กนุ่มๆหวานน้อยๆ หอมกลิ่นชามากๆ

ด้านบนใส่ทองคำเปลวดูหรูหรามากๆ

สตอเบอรี่ช็อตเค้กอีกแล้ว ของพื้นฐานสำหรับร้านเค้ก ร้านนี้ครีมนุ่มฟู อร่อยกว่าร้านที่แล้วอีกครับ

พิสตา-อันทันส์ หน้าตาสวยงามมากๆ

ตัวเค้กและครีมนุ่มมากกกกกกกกก สีเขียวทำมาจากถั่วพิสตาชิโอ กินแล้วสดชื่น

ด้านบนเบอรี่ตกแต่งด้วยหยดน้ำตาลทำเหมือนน้ำค้างบนยอดผลไม้ ประดับด้วยช็อคโกแล็ตทำเป็นรูปใบไม้ สวยงามมากครับ

ด้านในตรงกลางก็มีไส้เป็นมูสช็อคโกแล็ตกับแยมอีก ตัดรสชาติได้ลงตัวมากๆ

อิจิโกะโนะทารุโตะ หรือ ทาร์ตสตเอเบอรี่ อันนี้ชอบมากๆครับ ที่คิวชูนี่เนื่องจากเป็นแหล่งปลูกสตอเบอรี่ เค้กที่ใส่สตอเบอรี่จึงอร่อยทุกชิ้น

แป้งทาร์ตกรอบๆ ครึมสดนุ่มๆหวานๆกำลังดี สตอเบอรี่ลูกโตๆ ฉ่ำๆ

สตอเบอรี่ให้มาทั้งลูกเลยนะครับ ไม่มีเม้ม

ต่อด้วยทรัฟเฟิลช็อกโกแล็ตของร้าน น่ากินมากๆเลยสั่งมาซักหน่อย ราคาก็ไม่ถูก แต่ถูกกว่าที่โตเกียวล่ะครับ ชิ้นล่ะ 220 เยน หรือประมาณ 70บาท

กลัวลูกค้าไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็มีโพยให้ดูด้วยครับ

ที่ผมสั่งก็จะมีรสแชมเปญ ชิโระทรัฟเฟิล แบบดาร์คช็อคเข้มข้น ส้มยุสึ แล้วก็อัลมอนด์ครับ
ข้างในผสมแชมเปญ ไม่หวานเกินไปกลิ่นหอมมาก กำลังดีเลยครับ

ชิโระทรัฟเฟิล อันนี้อร่อยครับ กลมกล่อมมากๆ

อัลปาโก้ เป็นแบบดาร์คช็อคเข้มข้น รสขมนำแล้วหวานตาม ใครรักช็อกโกแล็ตต้องลองครับ

ส้มยุสึ เปรี้ยวนิดๆ ออกรสแบบญี่ปุ่นๆ

มัลโกน่า อันนี้จะเป็นช็อกโกแล็ตผสมนม ใส่แอลมอนด์ ชอบๆ

“ร้าน Jacques”
เปิด:
[จันทร์ พุธ-เสาร์]
10:00-19:00
[วันอาทิตย์และวันหยุดราชการ]
10:00-18:00
หยุดวันอังคาร
map: https://plus.google.com/104246857941390758697
ต่อมื้อเที่ยงกันเลยครับ ร้านนี้เป็นร้านที่”แปลก”ที่สุดในทริปนี้แล้ว
หลังจากที่เอาสัมภาระที่โรงแรมไปไว้ที่ล็อคเกอร์ที่สนามบินเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็พร้อมเริงร่าในวันสุดท้าย
นั่งสถานีรถไฟมาลงที่สถานี Sakurazaka แถบนี้เป็นแถบที่อยู่อาศัยมีแต่บ้านคนทั้งนั้น

ที่จะไปนั้นต้องขึ้นเนินชันๆตรงนี้

พ้นตรงนี้เลี้ยวซ้ายก็เจอเลย

ที่จะมาคือบ้านหลังนี้ครับ บ้านหลังนี้จริงๆแล้วคือ “ร้าน โกฮังยะ อิมะโคโคะ” ไม่มีป้ายร้าน ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่าเป็นร้านอาหาร มีแต่ข้อมูลปากต่อปาก และคำเล่าลือในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น(สื่ออื่นๆผมไม่รู้นะครับ^^”) ถือว่าเป็นร้านตำนานเลยก็ว่าได้ และผม”พลาด” ที่ไม่ได้จองล่วงหน้า ร้านนี้มารู้ในภายหลังว่าต้องจองล่วงหน้า 3 อาทิตย์เป็นอย่างน้อย

หน้าประตูทางเข้าไม่บ่งบอกอะไรเลย

ได้มีโอกาสเข้าไปแป๊บนึง เห็นลุงเจ้าของซึ่งก็เป็นพ่อครัวเอง เอาอาหารมาเสิร์ฟแต่ล่ะโต๊ะ และอธิบายอาหารที่ตัวเองทำว่ามันคืออะไร (และกลิ่นอาหารหอมมากๆT_T) อาหารแต่ล่ะวันไม่สามารถเลือกได้ว่าเราจะกินอะไร ขึ้นกับลุงพ่อครัวเท่านั้นว่าได้วัตถุดิบอะไรดีๆในวันนั้นๆ และร้านนี้ปิดเดือน กพ. และ สค. ทั้งเดือนอีกด้วย ร้านนี้เป็นร้านที่ต้องทำให้ผมต้องมาเยือนฮาคาตะอีกครั้ง ต้องมาชิมรสชาติพ่อครัวคนนี้ให้ได้!!!
สุดท้ายก็ต้องเดินลัดกลับมาที่แถว รร.ใหม่ มาที่ร้านอุด้งที่ได้รับรางวัล Best Restaurant ในปี 2009 จากเว็บ tabelog ร้าน เมนโควโบวนากะ
หน้าร้านเก่าแก่เล็กมากๆ

ร้านเป็นแบบเคาเตอร์นั่งได้ 12 ที่ ร้านนี้เปิด 11.00-15.00 เท่านั้น

เมนูของร้านอ่านที่ฝาผนังได้เลย

ป้ายประกาศจากเว็บ Tabelog

ชามแรกมาแล้ว บุคคาเกะ โกโบวเทน เป็นอุด้งร้านโป๊ะหน้าด้วย เทมปูระโกโบว (600เยน)

ซุปใส แต่รสชาติ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก ซดคล่องคอ เส้นเหนียวหนุบหนับ เด้งสู้ฟัน

โกโบทอดหอมอร่อยสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รสชาติเข้มข้นมาก

อีกชามเป็นอุด้งเย็นครับ สตามิน่า บุคคาเกะ (800เยน)

ชามนี้เป็นอุด้งเย็น ผมชอบอุด้งเย็นตรงที่เส้นจะมีความเหนียวนุ่ม ยืดหยุ่นกว่าอุด้งร้อน

ชามนี้จะใส่ไข่ดิบ มันยามะอิโมะ ปลาคัตสึโอะตากแห้ง เนงิ เข้าด้วยกัน

พอจะกินก็คนทุกอย่างเข้าด้วยกัน อร่อยมากกกกกกกกกกกก มันยามะอิโมะทำให้เหนียวนุ่มละมุนกลมกล่อมสุดๆ ได้รับความเข้มข้นจากปลาคัตสึโอะตากแห้ง พร้อมความอร่อยจากเส้นอุด้ง สุดๆครับชามนี้

เจ้าของร้านครับ ขอบคุณสำหรับอุด้งอร่อยๆ

“ร้าน เมนโควโบวนากะ”
เปิด: 11:00-15:00 หยุดวันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ
map: http://goo.gl/maps/XyRgn
ต่อเลยครับตอนกินเสร็จก็บ่ายสอง ร้านที่จะไปดันเปิดราวๆ 3 โมงเย็น เลยไปเดินห้างดีกว่า ไหนๆก็ซื้อตั๋ววันมาแล้ว ใช้ให้คุ้ม
ก็มาห้างเดิมครับ Canal City ชอบสุดแล้วห้างนี้ วันก่อนเดินได้ไม่ถึงชม.

ด้านบนสุดเป็นราเม็งสเตเดี้ยม (แต่ไม่ได้กินนะครับ ดูไม่ค่อยน่าอร่อย)

ที่นี่จะไม่ใช่เน้นราเม็งของฮาคาตะ แต่เป็นแนวราเม็งของดีทั่วญี่ปุ่นครับ(ประมาณราเม็งอารีน่าของคุณตัน) เพราะของฮาคาตะก็หากินง่ายอยู่แล้ว

มาที่นี่หมดเวลาไปเยอะพอควรครับ ทั้งซื้อของฝาก ของเล่น ชากาปอง เกมเครน หลงระเริงจนประมาณ 4 โมงได้ รีบไปก่อนดีกว่า

วันนี้วันเสาร์คนต่อคิวซื้อตั๋วหนังเยอะมาก

รีบมาที่สถานี Akasaka แถวที่พัก (อีกแล้ว) จริงๆแถวนี้ของกินเยอะมากครับ ไปๆมาๆ หลายรอบอยู่ เดินมาประมาณ 15 นาทีก็ถึงร้านนี้ครับ Bisโตโรทาคากิ (เล่นคำว่า Bistro แบบภาษาญี่ปุ่นล่ะครับ) ร้านนี้เป็นร้านอาหารอิตาเลียนเปิดใหม่ และเปิดในซอกหลืบอย่างที่เห็น แต่ได้รับความนิยมมากครับ

แล้วเดินขึ้นมาตรงบันได (อย่างกะบันไดหนีไฟ) เข้ามาก็เจอซอกทางเข้าประตูมืดๆ (ตอนแรกนึกว่าร้านปิด)

เปิดเข้าไป ที่นั่งทั้งหมดจะเป็นเคาเตอร์หมดเลยครับ ล้อมรอบครัว และมีคนครัวอยู่ 2 คนเท่านั้นเอง

เชฟใหญ่จะเป็นผู้หญิงครับ ส่วนผู้ชายจะเน้นเตรียมวัตถุดิบ กับอาหารกินเล่น ซึ่งทำงานทั้งหมด 2 คนจริงๆ ทั้งการทำอาหาร เตรียมอาหาร เสิร์ฟ คิดเงิน

ตอนไปยังไม่ค่อยมีคน ทางร้านยังเตรียมอาหารกันอยู่เลย แต่ที่เห็นที่ว่างๆ มีคนโทรมาจองตลอดจนเต็มไปแล้วครับ ถ้าดึกๆคงไม่ได้มากินร้านนี้แน่ๆ

ร้านนี้เน้นขายไวน์เป็นหลัก มีให้เลือกเยอะมากๆ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์แทบไม่มีเลย

น้ำที่กินได้เลยมีแค่ น้ำแร่เอเวียง และ Perrier

เมนูอาหารครับ ร้านนี้ชื่อร้านเป็นอิตาเลี่ยน แต่เมนูอาหารและไวน์ จะเป็นอิตาเลี่ยน + ฝรั่งเศสปนกัน

เนื่องจากต้องทำเวลา และเหลือพื้นที่ในท้องไว้สำหรับอีกมื้อ เลยจัดไม่หนักมาก เอาของกินเล่นมาก่อน จานแรก Rie Chef no Rillette (523เยน)

Rillette ก็คือเนื้อสัตว์บดกับไขมันเอาไว้ทาขนมปังครับ ขนมปังกรอบมากๆ เคี้ยวดังสุดๆ เพลินมาก Rillette ก็อร่อยเข้มข้นแต่รสไม่จัด เม็ดพริกไทยแดงที่อยู่ด้านบนก็อร่อยครับ

ของกินเล่นจานต่อมา อุฟุ ♥ มาโย (630เยน) ในจานจะมีไข่ต้ม มันบด กินกับซอส 2 ชนิด ซอสมายองเนสกับซอส Basil (โหระพานั่นล่ะครับ)

ไข่ต้มจะโรยเกลือเล็กน้อย

มันบดอร่อยมากครับ

ต่อไปสเต็กขึ้นชื่อของทางร้านครับ ในภาพเป็นปริมาณแบบฮาล์ฟ (1,800เยน)

ย่างได้ดีมากๆครับ อร่อยสุดๆ คนล่ะแนวกับเมื่อวานเลยครับ

มันทอดชิ้นโตมากๆ

จานนี้ไม่มีในเมนูครับ เนื่องจากอยากกินรีซ็อตโต (อยากมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ไม่ได้กินซักที) ต้องขอหน่อยล่ะ แต่เมนูรีซ็อตโต้ที่นี่จะสั่งได้ต้องสั่งเป็นคอร์สครับ เพราะเค้าจะใช้น้ำซุปที่เหลือจากการทำอาหารมาทำรีซ็อตโต้ให้ แต่ที่นี่ก็มีเมนูที่ไม่ได้ใส่ลงในเมนู คือ รีซ็อตโต้ฟัวกรา!! สั่งแบบไม่ต้องคิดเลยครับ

ตัวข้าวที่ผัดอยู่ก็ใช้น้ำ Perrier ทำก่อนครับ อีกกะทะก็จะทอดฟัวกรา พอฟัวกราได้ที่ ก็เอาน้ำจากการทอดฟัวกราราดลงไปในรีซ็อตโต้ แต่ดูตอนทำน้ำลายก็ไหลแล้ว

ข้าวก็ออกมาอัลเด็นเต้ ตัวฟัวกราก็ทอดได้กำลังดี เมนูนี้ชนะใจผมไปเลย ชอบมากๆ

ราคามื้อนี้ 8,400เยน แต่ก็งงๆกับราคาเหมือนกันครับ เพราะไม่รู้ว่าตกลงรีซ็อตโต้มันราคาเท่าไหร่กันแน่ (ร้านอาหารที่นี่หลายร้านจะไม่มีบิลมาให้เช็คนะครับ จะเป็นยอดรวมมาให้จ่ายเลย)
“ร้าน bis to ro Takagi”
เปิด: 15:00-24:00(L.O.23:00)
เบอร์โทร: 092-732-3570 (ถ้าไม่ได้ไปช่วงร้านเปิดแนะนำให้โทรจองไว้ก่อนครับ)
map: http://goo.gl/maps/EfHo9
เครื่องก็จะออกตอน 3 ทุ่ม กะว่าจะออกจากร้านนี้ราวๆ 5 โมงเย็น ไปๆมาๆ ร้านนี้ทำอาหารช้ามาก (ก็มีแค่ 2 คน) สรุปกินเสร็จก็ปาเข้าไป 6 โมงกว่าๆแล้วครับ เหลือเวลาไม่มาก ต้องเผื่อเวลาเช็คอินด้วย ที่อยากไปกินต่อคือร้านหม้อไฟ แต่พอไปถึงเจอคิวอันยาวเหยียด ช่วงนั้นรีบมากไม่มีเวลามาถ่ายรูปอะไรเลยครับ ต้องไปแผน B “โซ้ยราเม็งขึ้นชื่อที่นี่”
เพราะจะว่าไปยังไม่ได้กินราเม็งที่เป็นราเม็งจริงจังของที่นี่เลย มีแต่ราเม็งแผงลอย กับราเม็งผัด ไหนๆก็ไหนมื้อสุดท้ายแบบไม่มีเวลาเลยไปจัดร้านราเม็งที่เรตติ้งเยอะที่สุดที่อยู่ในฮาคาตะนี่ล่ะครับ โชคดีที่อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟฮาคาตะ พอไหวอยู่
จากสถานีฮาคาตะเดินมาราวๆ 10 นาทีก็ถึงแล้วครับ ร้านราเม็ง ฮาคาตะอิคโควฉะ

มาถึงก็เลือกกดเลย

โต๊ะที่นี่มีแบบทั้งเคาเตอร์ (นั่งหันหน้าชนกับอีกด้านนึง)

และแบบโต๊ะใหญ่ถ้ามาหลายคน

มีเครื่องอะไรให้เติมได้เยอะ ทั้งผักดองกระเทียมสด

เกี๊ยวซ่ามาก่อนครับ ที่นี่มีแต่เกี๊ยวซ่าชิ้นเล็กๆ แต่อร่อยมากกกกกกกกก (400เยน)

จุดเด่นของฮาคาตะราเม็งคือสั่งเพิ่มเส้นได้ครับ เรียกว่า คาเอะดามะ ที่นี่เพิ่มเส้นครั้งล่ะ 150เยนครับ

แน่นอนว่าขอจัดแบบเต็มๆหน่อย ทามาโกะเนงิชาชูเมน หรือก็คือ ชาชูเมนเพิ่มไข่และต้นหอม (1050เยน)

เต็มที่จริงๆครับ ชาชูล้นชาม

ส่วนนี่ของผม ทามาโกะเนงิชาชูเมน แต่เพิ่มเป็นซุปดำ!!! (1050เยน +ซุปดำ 50เยน)

ที่นี่เค้าจะให้เลือกระดับความสุกของเส้นได้ มีแบบแข็ง ปกติ และนุ่ม แน่นอนว่าฮาคาตะราเม็งเส้นต้องเลือกแบบแข็งๆหน่อย

ซุปดำ แต่รสไม่จัด ซดได้คล่องคอมาก หอมอร่อยสุดๆๆ

ชาชูนุ่มอร่อยมาก

ไข่ต้มแบบยางมะตูมมมมมมม ต้องแบบนี้เซ่!!!!

หมดชามมมมมม

ถ้าชอบซื้อแบบเป็นของฝากทำเองที่บ้านก็ได้ครับ

“ร้าน ฮาคาตะ อิคโควฉะ”
เปิด:
[จันทร์-เสาร์]
11:00-24:00(L.O 23:30)
[อาทิตย์]
11:00-21:00
map: http://goo.gl/maps/aVnb2
จบวันแล้ว บายๆ ฮาคาตะ ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีกนะ

หลังจากนั้นก็รีบไปที่สนามบิน ดีที่ว่าสนามบินฟุคุโอกะอยู่ใกล้เมืองครับ นั่งรถไฟไปแป๊บเดียว เลยเช็คอินขึ้นเครื่องทัน
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามผลงานมาตลอด ไว้รับชมผลงานต่อไปนะครับ ♥