Browse
วันที่ 3 IWATE
วันนี้นัดศูนย์รถโตโยต้า เพื่อรับรถเช่าไว้ครับ เลยตื่นมาตั้งแต่เช้า และตอนเช้า รร.มีบริการอาหารเช้าด้วย
คือผมพักที่ Sun Hotel Plaza Ishinomaki แต่ว่า รร.ไม่มีห้องอาหาร เค้าใช้ห้องอาหารเดียวกับ Ishinomaki Grand Hotel ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามครับ เป็นรร.ในเครือเดียวกัน
เข้ามาก็จะเจอโซนอาหารเลยครับ
ที่นี่เข้ามาก็จะสะดุดตาอันนี้ก่อนเลย มีอิคุระ(ไข่ปลาแซลมอน) แบบตักไม่อั้น!!!
มาดูกันชัดๆ
ไหนๆก็ให้มาซะขนาดนี้เลยไม่เกรงใจล่ะครับ ตักข้าวสวยแล้วโปะไข่ปลาแบบไม่ยั้ง
คือกินไปแล้วข้าวจะหมดก่อนไข่ปลาอีก ไข่ปลาที่นี่ก็สดมาก เนื้อเต่งตึง แถมเป็นไข่ปลาแซลมอนจริงๆด้วยนะครับ …
วันที่ 5 Oma – Hakodate
วันนี้ออกจากโรงแรมมาตั้งแต่เช้าครับ นี่คือหน้าตาโรงแรมที่พักเมื่อคืน เป็นโรงแรมเดียวที่หาข้อมูลจองได้ในแถบนี้ แต่จองผ่านเน็ตไม่ได้ครับ ต้องโทรจองเอา
แวะเยี่ยมชมเมืองหน่อยครับ เมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบมากกกกกก เดินไปแทบไม่เจอผู้คนเลย นานน๊านนนจะมีรถผ่านมาคัน
ที่นี่ไม่มีรถไฟมาถึงนะครับ ถ้าจะมาทางถนนต้องขับรถมาเองเท่านั้น หรือนั่งเรือมาจากตัวเมืองอาโอโมริ หรือฮาโกดาเตะก็ได้ครับ
มีป้ายรถเมล์ที่นี่ด้วย
ตารางเดินรถครับ 1-2ชม.จะมีรถมา 1คันครับ แถมเวลาที่ผมถ่ายนี่คือเวลาที่ควรมีรถมาแล้ว ก็ไม่มีมาด้วย o_0
เดินผ่านบ้านหลังนึงมีหมาเฝ้าอยู่ พอผ่านปุ๊บหมาก็เห่าใหญ่เลย ที่เจ๋งคือ หมาหันเข้าบ้านไปตะกุยกระจกเรียกเจ้าของด้วย แสนรู้สุดๆ
คนแถบนี้ส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงกันครับ มีเรือจอดอยู่ด้วย
เมืองนี้ถือว่าอยู่จุดเหนือสุดของเกาะฮอนชู …
ตะลุยกินแหลกแถบโทโฮคุ 12วัน 12คืน ตอนที่4-Morioka-Oma
วันที่ 4 Morioka (จ.Iwate) – OMA (จ.อาโอโมริ)
วันนี้เป็นวันที่ต้องเดินทางกันยาวๆครับ เติมพลังกันตั้งแต่เช้าที่อาหารเช้าโรงแรมกันก่อน
โรงแรมนี้ของกินพื้นๆไม่ค่อยหวือหวามากครับ
แต่อาหารบางอย่างไม่คุ้นเลย ไหนๆก็ไหนๆขอจัดทุกอย่างเลยครับ
สลัดเต้าหู้กับแฮม
ปลาตากแห้งเอามาย่างซอสครับ
คุชิคัตสึ
อาหารโรงแรมต้องมีไส้กรอก
และไข่
ส่วนอันนี้เป็นเผื่อกเคี่ยวกับซอสเนื้อสับ รสหนักเค็มมากครับ ต้องกินกับข้าวจะพอดี
แล้วก็จัดข้าวซักถ้วย
ที่เด็ดของโรงแรมนี้คือขนมปังครับ เอามาเข้าเตาปิ้งร้อนๆนี่ ผมเบิ้ลไปอย่างล่ะ 2ลูก จุกเลย
เตรียมตัวออกเดินทางได้!!! แต่พอมาที่รถ ข้างนอกหนาวมาก ขนาดที่กระจกรถกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว
มาดูกันใกล้ๆ เป็นเกล็ดน้ำแข็งเกาะซะสวยเชียว ต้องเปิดละลายน้ำแข็งซักพักถึงไปได้ครับ
ที่ใกล้ๆกันนี้จริงๆมีจุดชมวิวสวยๆอยู่ แต่ต้องมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิครับ แต่ไหนๆก็มาแล้ว แวะซักหน่อย แล้วจินตนาการเอาว่าเป็นช่วงซากุระบานนน
ดูแล้งๆไม่มีอะไรเลย
แอ่งน้ำที่นี่ก็เป็นน้ำแข็งหมดเลย มานี่ก็มาเหยียบไอ้นี่เล่นแบบชินจังนี่ล่ะ คือมันสนุกจริงๆนะ 555
ใบไม้แห้งก็แช่แข็ง
อันนี้โหดสุดครับ ที่เห็นหินลอยน้ำได้นี่ ไม่ใช่นะครับ มันคือน้ำแข็งล้วนๆ ตอนแรกลองขว้างใส่หวังจะให้แตก ปรากฎค้างเติ่งอยู่แบบนี้
ดูความหนาของแผ่นน้ำแข็งสิครับ อยู่ในคดีฆาตกรรมในการ์ตูนได้สบายๆเลย
ข้างๆตรงนี้มีเป็นสนามเบสบอลมาเล่นกันได้ แต่ตอนนี้มีแต่หิมะครับ
ออกเดินทางมุ่งสู่เมือง Morioka ต่อเลยครับ จากตรงนี้ใช้เวลาราวๆ 1ชม.ก็ไปถึง
ระหว่างทางเนื่องจากรอบๆเป็นภูเขา วิวสวยตลอดทางเลย
อันนี้ก็งาม รู้สึกว่าจะเป็นภูเขาอิวาเตะ
สำหรับต่างจังหวัด แหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะใหญ่ๆ แล้วก็อยู่นอกเมืองหมดครับ อย่างอันนี้ก็เป็น Uniqlo ยักษ์
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเมือง Morioka แล้วครับ
มาที่ซอยนี้เราจะมากิน วังโกะโซบะ ของดีของที่นี่กัน
มาที่ร้านนี้ครับ อาสึมายะ เป็นร้านเก่าแก่เปิดมาร่วมร้อยกว่าปีแล้ว
ท้องยังตึงๆอยู่ ลังเลว่าจะกินเลยหรือยังไม่กินดี แต่พอดีร้านว่างอยู่ เดี๋ยวมาอีกรอบร้านเต็มจะเสียใจ ซัดเลยดีกว่า
เนื่องจากร้านนี้มีทัวร์ไทยมาบ่อย ถึงขนาดมีเรื่องราวของวังโกะโซบะเป็นภาษาไทยให้อ่านด้วย
วิธีกินก็คือ เราจะมีถ้วยเปล่าๆถ้วยนึง แล้วพนักงานร้านจะเทโซบะให้เรากินทีล่ะถ้วยๆ ถ้วยล่ะ 1คำ กินไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะไม่ไหว ซึ่งพนักงานจะพยายามเชียร์เราให้เรากินให้มากที่สุด
มีเครื่องเคียงมาให้กินเปลี่ยนรสชาติด้วย (เติมไม่ได้)
มีไก่สับปรุงรส
เห็ดหมักซอสและหัวไชเท้าฝน
สาหร่าย
ซาซิมิมากุโร่
ชาพร้อม
ถ้วยผมมาแล้ว
การต่อสู้เราหว่างผมกับพนักงานเริ่มต้นขึ้นแล้ว!!!
เนื่องจากตอนเช้าซัดไปเยอะมาก เลยกินไปได้แค่ 69 ชาม (ค่าเฉลี่ยผู้ชายทั่วไปอยู่ที่ 60 ชามครับ) ถามน้องเค้าว่า คนที่ทำได้มากที่สุดอยู่ที่กี่ชาม น้องเค้าบอกว่า ผู้ชาย 600กว่า ผู้หญิง 500กว่า (ผู้หญิงที่กินได้ 500กว่าถ้วย เป็นฟู้ดไฟเตอร์ครับ)
ทางร้านก็เขียนไว้เป็นที่ระลึกกลับบ้านด้วย
มีของหวานให้ตอนจบด้วยครับ
แต่พอดูรอบๆโต๊ะที่กินกันแล้วแอบอายเหมือนกัน สู้ไม่ได้เลย 5555
สาวข้างๆก็กินเยอะ (มีโต๊ะนึงเป็นสาวตัวเล็กๆ กินไปร้อยกว่าชาม ตบมือกันยกร้าน)
คึกคักเฮฮากันสนุกสนานทีเดียว
เช็คบิลครับ ราคาคนล่ะ 2,625เยน(อันนี้แบบถูกนับชามเอง จะไม่เก็บถ้วยออกจากโต๊ะ) ถ้าให้เค้านับให้นี่บวกอีก 500เยนครับ (จะวางถ้วยเยอะๆไว้ที่โต๊ะ)
คือถ้าเอาสนุกก็วางชามเปล่าที่โต๊ะจะดูอลังมากครับ (ตอนแรกไม่รู้ เห็นว่านับเองถูกกว่า)
สำหรับรสชาตินั้นก็ไม่ได้อร่อยมากครับ แต่เน้นเรื่องความสนุกเฮฮามากกว่า นอกจากนี้ร้านนี้ก็มีเมนูที่ไม่ใช่วังโกะโซบะด้วยครับ เป็นเมนูอาหารทั่วไปจะบริการอยู่ชั้น1 คนกินเยอะพอสมควร
ร้าน อาสึมายะ
แผนที่ http://tabelog.com/iwate/A0301/A030101/3000030/dtlmap/
เปิด 11:00~20:00 ไม่มีวันหยุด
อิ่มมากและอืดมากครับ เลยเดินเล่นรอบๆเมืองก่อนออกเดินทางยาวๆ
ที่นี่มี Map ร้านกิน ที่เที่ยวของเมืองด้วย
ร้านขนมปังเก่าแก่ แอบไปเล็งๆ ในตู้มีเค้กอยู่ 2 ก้อนเอง…
ร้านผักของเมือง คนมาซื้อของเยอะมากครับ มากันไม่ขาดสาย คนอุดหนุนเยอะกว่าในซุปเปอร์ในย่านการค้าที่ผ่านมาอีก
ข้างหน้าก็มีรูปปั้นลุง (น่าจะเป็นเจ้าของร้าน)
มีสหกรณ์ด้วยเคยดูในรายการดูให้รู้ ที่นี่จะเป็นที่ๆเกษตกรเอาผลผลิตตัวเองมาวางขายตรงๆให้ผู้บริโภคเองเลยครับ ราคาจะถูกมาก
มีราคาและรายละเอียดของเกษตกรแปะอยู่ทุกอย่าง
เดินทะลุมาก็เจอวัด โมริโอกะฮาจิมังกูว
ที่มุมนี้บอกว่าถ้าเหรียญลอยน้ำจะมีโชคลาภ
มีเหรียญที่ลอยน้ำได้จริงๆ (คือเหรียญ 1เยนมันเบามากจริงๆ)
เดินเที่ยวชมเมืองได้ซักพักก็เตรียมเดินทางออกจากเมืองนี้มุ่งสู่โอมะ
การที่จะไปโอมะนี่ ต้องขึ้นทางด่วนไปครับ เป็นการขึ้นทางด่วนที่ญี่ปุ่นครั้งแรกของผมกลัวผิดพลาดมากๆ 555 ใช้เวลาเดินทางราวๆ 5-6ชั่วโมงครับ
ลุยโลด
มาทางด่วนแล้ว ของขึ้นชื่อทางด่วนของญี่ปุ่นนี่คือจุดแวะพักรถครับ นี่ขนาดไปสถานที่ที่คนไม่ค่อยนิยม ยังมีจุดแวะพักดีๆเยอะเลย
ข้างในมีขายอาหาร และของฝากเพียบ
อีกจุดครับ ใหญ่กว่าจุดแรกอีก
รถจอดเยอะมาก ทั้งรถเล็กรถใหญ่
จุดนี้มีร้านอาหารเป็นล่ำเป็นสันเลย
วิวก็สวย
ข้อดีของการวิ่งบนทางด่วนคือมีการเคลียร์หิมะให้ตลอดเส้นทางครับ ถ้าวิ่งข้างล่างบางจุดที่รถผ่านน้อยๆอาจจะไม่มีการเคลียร์หิมะ หรือเคลียร์นานๆครั้ง
วิ่งยาวๆก็ต้องแวะเข้าห้องน้ำบ้าง
แถวนี้หิมะตกหนักมาก ขาวโพลนเลย
ที่หนักคือ เนื่องจากเมืองโอมะนั้นค่อนข้างห่างไกลความเจริญ หลังจากลงทางด่วนแล้วต้องวิ่งเส้นปกติไปอีกครึ่งทาง แถมถนนก็มืด อันตรายสุดๆ
มาถึงเมืองโอมะ เมืองแห่งปลามากุโร่แล้ว มาถึงราวๆ 3ทุ่มกว่าๆ ร้านอาหารก็ปิดกันเกือบหมดแล้ว แต่มีร้านนี้ที่หาข้อมูลเตรียมไว้ว่าปิดดึก
ร้านไคยุเทย์ อยู่ใกล้ๆโรงแรมเลย
เข้ามานั่งที่เคาเตอร์เตรียมสั่งเลย
ลายเซ็นคนดังเพียบ
ที่เคาเตอร์มีตู้ปลาตู้หอยให้เลือกสรรกัน
แน่นอนว่าของขึ้นชื่อต้องเป็นเมนูปลามากุโร่
ชาร้อน
ของกินเล่นเรียกน้ำย่อยมาก่อน เป็นปลาหมึกครับปรุงเปรี้ยวๆอร่อยดี
หอยนางรมสดๆมากินกันหน่อยยย สดมากๆเข้มข้นสุดๆ
ถ้วยซุปครับ มีหนวดกุ้งสปอยออกมาด้วยว่าเป็นอะไร
เป็นซุปใสหัวกุ้งครับ อร่อยมากๆ ซุปใสซดคล่องแต่รสชาติเข้มข้น
พ่อครัวกำลังปั้นซูชิปลามากุโร่อยู่
มาแล้วซูชิปลามากุโร่ของดีของโอมะ เซ็ตล่ะ 3,500เยน
ประกอบไปด้วยโอโทโร่ 1คำ
จูโทโร่ 2คำ
อากามิ 2คำ
เนงิโทโร่อีก 2คำ
รสชาติปลามากุโร่ที่นี่แตกต่างจากมากุโร่ทั่วไปชัดเจนครับ ทั้งผิวสัมผัสและรสชาติ เสียดายที่พ่อครัวที่นี่จะสู้พ่อครัวในเมืองไม่ได้ แต่วัตถุดิบกินขาดครับ
แค่นี้คงไม่พอ ต่อด้วยมากุโร่ด้งอีกชาม (3,500เยน)
เอาให้เบื่อมากุโร่ไปข้างนึงเลย
แค่นั้นยังไม่พอ ขอซาซิมิมาอีกจาน (5,500เยน)
แต่นั่นคือความผิดพลาด!!! เพราะว่าพ่อครัวไม่ได้เตรียมวัตถุดิบไว้มากพอ เลยต้องเอาของแช่แข็งมาละลายน้ำแข็ง และวิธีที่ละลายนั้นแย่มากๆครับ
เส้นใยเนื้อเละหมดเลย แถมบางชิ้นยังมีน้ำแข็งเกาะอยู่ จบมื้อไม่สวยเลย
สำหรับร้านนี้อาหารค่อนข้างแพงกว่าร้านอื่นๆเล็กน้อย (แต่ก็ยังถูกกว่าในเมือง) แต่เป็นร้านเดียวที่เปิดดีก เป็นทางเลือกเดียวของเมืองอันเงียบเชียบแห่งนี้ครับ
ร้านไคยุเทย์
แผนที่ http://tabelog.com/aomori/A0204/A020403/2000205/dtlmap/
เปิด 17.00-เที่ยงคืน
จบวันที่ 4